ลูกเทพไล่ทุบรถคันที่ 9 เหตุ แม่ไม่ให้เงินซื้อบิ๊กไบค์รุ่นใหม่ ผู้เสียหายยืนยัน จะเอาผิดทางกฎหมายให้ถึงที่สุด แม้ว่าคนร้ายเป็นหลานของบิ๊กสีกากีก็ตาม
จากกรณีที่ นายกิติศักดิ์ วงศ์เลิศ อายุ 20 ปี ลูกชายของนางรุจิราภรณ์ หลาวทอง อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ ได้ก่อเหตุเอาอิฐทุบกระจกรถใน จ.ศรีสะเกษ จนได้รับความเสียหาย รวม 8 คัน เนื่องจากไม่พอใจที่มารดาไม่ยอมให้เงินจำนวน 8 แสนบาท เพื่อนำไปซื้อรถบิ๊กไบค์รุ่นใหม่ อีกทั้งนายกิติศักดิ์ ยังประกาศว่า จะไล่ทุบ และเผารถให้ครบ 10 คันด้วยนั้น
นางวัทรา แท่นสละ นักวิชาการเงินและบัญชี ชำนาญการพิเศษ พร้อมด้วยสามี เจ้าของรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอินโนวา สีดำ ที่ถูกทุบกระจก ขณะที่รถคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณด้านหน้าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ศรีสะเกษ เขต 1 ได้เดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ นายกิติศักดิ์ฯ โดยมีพยานหลักฐานทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด และพยานบุคคลยืนยันว่า นายกิติศักดิ์ฯ เป็นคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุจริง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความไว้แล้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายโดยได้ตั้งข้อหาว่า ทำลายทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย และจะมีการตรวจสอบว่า นายกิติศักดิ์ฯ ได้กระทำผิดในข้อหาละเมิดอำนาจศาลที่ได้มีคำสั่งว่าห้ามเข้าไปภายในบริเวณ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 หรือไม่ เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้นายกิติศักดิ์ฯ เคยก่อคดีทุบรถในบริเวณนี้มาแล้ว แต่ได้รับการประกันตัวออกมา
นางวัทรา เจ้าของรถยนต์ที่ถูกทุบกระจก เปิดเผยว่า ตนรู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่คิดว่ารถยนต์ของตนจะถูกทุบ ซึ่งหลังเกิดเหตุตนได้ปรึกษากับสามีแล้วว่าจะแจ้งความดำเนินคดีเพื่อเอาผิดคนร้ายรายนี้ โดยตนจะดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุดและไม่หวั่นเกรงอิทธิพลว่าคนร้ายเป็นหลานของบิ๊กสีกากีคนหนึ่งแต่อย่างใด ซึ่งในวันนี้แม่ของนายกิติศักดิ์ได้เข้ามาพบกับตนเพื่อเจรจาค่าเสียหาย แต่ว่าตนไม่คุยด้วย เพราะต้องการดำเนินคดีกับคนร้ายไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป เนื่องจากตนเห็นว่าคนร้ายรายนี้มีการกระทำที่ไม่หวั่นเกรงกฎหมายบ้านเมืองแต่อย่างใด
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
